คลังเก็บผู้เขียน: footballhora

มิเคล อาร์เตต้า ไม่พอใจนักข่าวหลังโดนจี้เรื่องการหมุนเวียนผู้เล่นของ อาร์เซนอล

มิเคล อาร์เตต้า ไม่พอใจนักข่าวหลังโดนจี้เรื่องการหมุนเวียนผู้เล่นของ อาร์เซนอล

มิเคล อาร์เตต้า กุนซือของ อาร์เซนอล ระเบิดอารมณ์หลังจากที่เขาถูกถามคำถามที่น่าขยะแขยงในการแถลงข่าวหลังเกม โดยเขาได้ถูกถามว่าความพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก เกิดจากการขาดการหมุนเวียนตัวผู้เล่นตลอดทั้งฤดูกาลหรือไม่ โดยในเกมดังกล่าวก็เป็นทางด้านของ เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีบิช และ เออร์บิง ฮาแลนด์ ที่ทำประตุให้กับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และหลังจบเกมดังกล่าวก็ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขยับแซง อาร์เซนอล ขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ในทันที

หลังจากพพ่ายแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ อาร์เซนอล ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยใน 3 เกมล่าสุด และนั่นทำให้โอกาสในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ของพวกเขาน้อยลงด้วยหลังจากที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งทางด้านของ มิเคล อาร์เตต้า ก็รู้ดีว่าทีมของเขาเสียประตูง่ายเกินไป

อย่างไรก็ตาม เขาถูกถามในภายหลังว่าการขาดการหมุนเวียนตัวผู้เล่นของ อาร์เซนอล ตลอดทั้งฤดูกาลคือสาเหตุสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความพ่ายแพ้ในครั้งนี้หรือไม่ แต่ มิเคล อาร์เตต้า ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจคำถามจากนักข่าวที่ถามเขา และทางด้านของ มิเคล อาร์เตต้า ก็ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าทีมของเขาจะสามารถเรียกโมเมนตัมกลับมาให้กับทีมของเขาได้ ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้หมดโอกาสในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และยังมีความได้เปรียบจากการที่ลงสนามน้อยกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 1 เกมด้วย

สำหรับเกมต่อไป อาร์เซนอล ก็มีกำหนดที่จะลงสนามพบกับ แอสตัน วิลล่า ในวันเสาร์นี้ และถ้าหากเขาเก็บชัยชนะได้ พวกเขาก็อาจจะสามารถทวงคืนตำแหน่งจ่าฝูงกลับมาให้ตัวเองได้อีกครั้ง และในวันเดียวกันทางด้านของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มีกำหนดลงสนามพบกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งถ้าพวกเขาไม่สามารถเก็บ 3 แต้มได้ โอกาสในการขึ้นเป็นจ่าฝูงของ อาร์เซนอล ก็ยังคงมีอยู่

ติโม แวร์เนอร์ ไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆ กับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู สำหรับการย้ายมายัง เชลซี

ติโม แวร์เนอร์ ไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆ กับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู สำหรับการย้ายมายัง เชลซี

ติโม แวร์เนอร์ อดีตผู้เล่นกองหน้าของ เชลซี ได้ออกมายอมรับว่าเขาจะไม่ให้คำแนะนำโดยตรงใดๆ กับเพื่อนร่วมทีมอย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ในขณะที่เขาเตรียมที่จะย้ายไปยัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงซัมเมอร์ของปีนี้ โดยเขามีความเชื่อว่าเวลาและประสบการณ์เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์หนทางแห่งความสำเร็จของเพื่อร่วมทีมชาติฝรั่งเศสของเขา แต่ทางด้านของ ติโม แวร์เนอร์ ก็ได้มีการพูดกับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ไปว่าการอยู่กับ เชลซี จะแตกต่างออกไปกับความคุ้นเคยที่เขาเคยอยู่กับ แอรืเบ ไลป์ซิก

คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นกองหน้าที่ทำผลงานได้มากที่สุดคนนึงในลีกฟุตบอลยุโรปตั้งแต่ปี 2021 และเขาได้ทำสถิติประตูและแอสซิสต์รวม 76 ประตูให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งผลงานนี้ก็เตะตาหลายๆ ทีมในยุโรปและอยากจะได้เขาไปร่วมทีมด้วย และมันก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่ เชลซี จะยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อทำช้อตกลงล่วงหน้าในการคว้าตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ไปร่วมทีมด้วย

เชลซี ได้โชว์สปิริตว่าพวกเขาพร้อมที่จะจ่ายเงินในจำนวนที่มากกว่าค่าฉีกสัญญาของนักเตะหนุ่มรายนี้เล็กน้อย โดยนักเตะหนุ่มรายนี้มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 56 ล้านปอนด์ ซึ่งตัวเลขค่าฉีกสัญญาในจำนวนนี้จะมีผลบังคับใช้ในช่วงสิ้นสุดฤดูกาล แต่ เชลซี ก็ยินดีที่จะจ่ายเงินในตัวเลขดังกล่าวเพื่อทำให้พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถคว้าตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มาร่วมทีมได้

เดิมที่แล้ว เชลซี ต้องการที่จะคว้าตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มาร่วมทีมด้วยในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะของเดือนนี้ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บหัวเขาที่เขากำลังประสบปัญหาอยู่ตั้งแต่ช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกทำให้แผนการของ เชลซี ต้องล้มเหลวไปและต้องย้ายมาร่วมทีม เชลซี ในฤดูกาลหน้าแทน

เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช เปลี่ยนใจอยากย้ายไปร่วมทีม อาร์เซนอล

เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช เปลี่ยนใจอยากย้ายไปร่วมทีม อาร์เซนอล

เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช มีโอกาสที่จะย้ายไปร่วมทีม อาร์เซนอล หลังจากที่มีข่าวออกมาเปิดเผยว่านักเตะหนุ่มกองกลางของ ลาซิโอ รายนี้ได้เปลี่ยนใจที่อยากจะย้ายไปยัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจากที่เขาได้รับความสนใจ อาร์เซนอล ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และทางด้านของ เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช ก็เป็นหนึ่งผู้เล่นที่มีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายมายัง พรีเมียร์ลีก มาอย่างยาวนาน โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี เองก็เป็นหนึ่งในทีมจากอังกฤษที่แสดงความสนใจในตัวของนักเตะหนุ่มรายนี้

แต่ตอนนี้ อาร์เซนอล เป็นสโมสรที่เชื่อมโยงกับการเซ็นสัญญาของเขามากที่สุดจากสโมสรในอังกฤษ ซึ่งในตอนนี้นักเตะหนุ่มวัย 27 ปีรายนี้เหลือสัญญากับ ลาซิโอ อีกเพียง 18 เดือน และดูเหมือนว่าในน่าจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับอนาคตของ เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช ในเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาใหม่กับสโมสร หรือการย้ายไปยังสโมสรใหม่ โดยทางด้านของ จูลิโอ การ์โดเน นักข่าวชื่อดังของอิตาลีก็ได้ให้น้ำหนักไปทางการย้ายไปยัง อาร์เซนอล มากกว่า

จูลิโอ การ์โดเน ได้มีการเปิดเผยว่า อาร์เซนอล พยายามที่จะเซ็นสัญญากับ เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ว่าเป็นทางด้านของ เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช เองที่ไม่ต้องการที่จะย้ายไปยัง อาร์เซนอล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับโอกาสในการย้ายทีมของเขาเอง โดยเฉพาะการย้ายไปเล่นให้กับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง อาร์เซนอล ที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงเปิดฤดูกาลจนถึงช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก

ลิโอเนล เมสซี ยกให่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก

ลิโอเนล เมสซี  ยกให่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก

ลิโอเนล เมสซี กล่าวว่าเขาไม่สงสัยเลยหากจะบอกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือโค้ชที่ดีที่สุดในโลก และเขากล่าวว่าเขาอยากจะชื่นชมเวลาที่ได้เล่นภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มากกว่านี้ ซึ่งทางด้านของ ลิโอเนล เมสซี่ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถคว้าถ้วยรางวัลร่วมกันได้ทั้ง 4 ปีสมัยที่ทั้งสองคนยังอยู่กับ บาร์เซโลน่า ก่อนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะพาทีมทำผลงานได้ไม่ค่อยดี และถูกปลดออกจากตำแหน่งเฮดโค๊ช

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลิโอเนล เมสซี่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ว่าเขาได้กลายเป็นบุคคลที่ได้เข้ามาทำลายมาตรฐานในวงการฟุตบอลด้วยการพาทีมของเขาประสบความสำเร็จแบบนับครั้งไม่ถ้วน และยากที่ใครจะสร้างสถิติให้เหมือนเขาหรือทำลายสถิติของเขาได้ แม้ว่าหลายคนต้องการที่จะเดินตามรอยของเขาก็ตาม และเขาก็เป็นเฮดโค๊ชคนหนึ่งที่พาทีมที่เขาโค๊ชประสบความสำเร็จทุกทีม

ลิโอเนล เมสซี ยังเผยอีกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำให้ทุกคนในทีม บาร์เซโลน่า ในสมัยนั้นรู้สึกว่าชัยชนะเป็นเรื่องธรรมดาและง่ายมากสำหรับพวกเขา และทำให้พวกเขาไม่รู้เลยว่าช่วงเวลาที่พิเศษมันเป็นยังไง เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นคนที่เข้ามาทำให้ทุกอย่างมันดูง่ายไปหมด ซึ่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เคยพา บาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ ลาลีกา 3 สมัย และ แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย และตอนนั้น ลิโอเนล เมสซี เองก็ยังสามารถคว้ารางวัลบัลลงดอร์มาได้ 4 สมัยติดต่อกันระหว่างปี 2009-2012

ลิโอเนล เมสซี  ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นช่วงเวลาที่ไม่ธรรมดา เขาเข้ามาพร้อมกับสิ่งที่เขาสอนเราและทำให้เราเติบโตในฐานะทีม เขาเข้ามาทำให้ทีมในชุดนั้นเป็นผู้เล่นที่ไม่เหมือนใคร และมันน่าประทับใจ ในการเล่นกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เราสามารถลงเล่นได้ทุกที่ และเราก็รู้ว่าเราจะชนะในทุกครั้ง ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครก็ตาม เรารู้ว่าต้องทำอะไร ทำอย่างไร เรารู้ทุกอย่าง แม้ว่าเราจะพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด แต่เราก็มีความมั่นใจเสมอ”

แมนยูและลิเวอร์พูล ต้องควักเงินอย่างน้อย 105 ล้านปอนด์หากต้องการเซ็นสัญญากับ ซาวิช

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ต้องควักเงินอย่างน้อย 105 ล้านปอนด์หากต้องการเซ็นสัญญากับ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล จะต้องจ่ายเงินค่าฉีกสัญญามูลค่ามากถึง 105 ล้านปอนด์หรือมากกว่านี้หากพวกเขาต้องการคว้าตัว เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ของ ลาซิโอ มาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคม หลังจากที่นักเตะทีมชาติเซอร์เบียรายนี้ได้ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายทีมไปยังสโมสนใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งตอนนี้ ลาซิโอ ก็ยังไม่ได้รับข้อเสนอใดๆ อย่างทางเป็นทางการจากสโมสรอื่นที่ต้องการจะเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มวัย 27 ปีรายนี้ท่ามกลางผลงานที่โดดเด่นอย่างมากในฤดูกาลนี้ใน เซเรียอา

สัญญาของ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช กับ ลาซิโอ ยังมีอายุจนถึงปี 2024 จึงทำให้ตอนนี้ ลาซิโอ มีความได้เปรียบและไม่มีความจำเป็นที่จะขายผู้เล่นของตัวเองออกจากสโมสร และทำให้เขามีสิทธิ์ที่จะเรียกค่าตัวผู้เล่นของเขาเท่าไหร่ก็ได้ และหากพวกเขาสามารถขายผู้เล่นได้ในราคาสูงก็ถือเป็นการทำกำไรอย่างมหาศาลของสโมสร แต่ถ้าหากไม่มีทีมใดซื้อ ลาซิโอ เองก็ไม่น่าจะมีความกังวลอะไร เพราะเขายังมีโอกาสขายผู้เล่นของเขาได้อยู่ในอนาคต

ก่อนหน้านี้ทางด้านของ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ก้ได้มีข่าวในการย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ด้วย แต่เป็นทางด้านของประธานสโมสรอย่าง เคลาดิโอ โลติโต ที่ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวว่าไม่เป็นจริง รวมถึงข่าวที่ระบุว่าผู้เล่นได้มีการตอบตกลงทางวาจากับ ยูเวนตุส ด้วย พร้อมกับเผยว่าตอนนี้ค่าตัวของ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช นั้นแพงกว่าเมื่อก่อนมาก ซึ่งถ้าสโมสรใดต้องการเขาไปร่วมทีมด้วยก็จะต้องมีเงินอย่างน้อย 105 ล้านปอนด์มาแลก

เชลซี สนใจที่จะคว้าตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด มาร่วมทีมหลังนักเตะหมดสัญญากับต้นสังกัด

เชลซี สนใจที่จะคว้าตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด มาร่วมทีมหลังนักเตะหมดสัญญากับต้นสังกัด

ท็อดด์ โบห์ลีย์ เจ้าของสโมสรคนใหม่ของ เชลซี สนใจที่จะเซ็นสัญญากับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในฐานะฟรีเอเยนต์หากเขาไม่ได้ตกลงที่จะต่อสัญญาใหม่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่นักเตะหนุ่มทีมชาติอังกฤษรายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก และเขาก็ยังสร้างความประทับใจให้กับหลายๆ คนเป็นอย่างมากหลังจากที่ยิงไป 2 ประตูช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ อาร์เซนอล ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 และยังเป็นทีมแรกของฤดูกาลที่สามารถเอาชนะจ่าฝูงอย่าง อาร์เซนอล ได้อีกด้วย

ในช่วงฤดูกาล มาร์คัส แรชฟอณืด ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิค เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวของสโมสร ซึ่งทำให้เขาไม่เคยได้ออกสตาร์ทเป็นผู้เล่นตัวจริง 11 คนแรกให้กับสโมสรเลย

แน่นอนว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็มีโอกาสที่จะวางแผนอนาคตของเขาไว้กับสโมสรอื่นเช่นกัน หากว่าในตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่ได้มีการวางแผนหรือพูดคุยเรื่องการต่อสัญญากับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งสำหรับสัญญาฉบับปัจจุบันของเขาจะหมดอายุลงในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2023 แต่ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังสามารถต่ออายุสัญญาของเขาออกไปได้อีก 1 ปีโดยอัตโนมัติตามที่ได้ระบุเอาไว้ในท้ายสัญญา

นอกจากนี้อีกทีมที่อยากจะได้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปร่วมทีมด้วยก็คือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งพวกเขาได้มีการติดต่อมาหานักเตะแล้วด้วยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ว่าเขาอยู่ภายใต้แผนการทำทีมของ เอริค เทน ฮาก ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงทำให้พวกเขาอดได้ตัวนักเตะหนุ่มทีมชาติอังกฤษรายนี้ไปร่วมทีม

เอริค เทน ฮาก เผยว่าทีมของเขาต้องเซ็นสัญญากับนักเตะเพิ่ม

เอริค เทน ฮาก เผยว่าทีมของเขาต้องเซ็นสัญญากับนักเตะเพิ่ม หลังพ่ายให้กับ ไบรท์ตัน

เอริค เทน ฮาก เฮดโค๊ชของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องมีการเซ็นสัญญากับนักเตะเพิ่มเติมหลังจากที่พ่ายให้กับ ไบรท์ตัน ในเกมเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก และนี่ถือเป็นความล้มเหลวอย่างมากสำหรับการคุมทีมในนัดแรกของ เอริค เทน ฮาก ถึงแม้ว่าสำหรับเกมก่อนหน้านี้ในการแข่งขันช่วงปรีซีซั่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ค่อนข้างดีพอสมควรก็ตาม

ปาสกาล กรอสส์ เป็นฮีโร่ของ ไบรท์ตัน โดยเขาได้ยิงไป 2 ประตูในระยะเวลาที่ห่างกันเพียงแค่ 9 นาทีเท่านั้น และสองประตูของเขาก็เพียงพอที่จะช่วยให้ ไบรท์ตัน เก็บชัยไปครองได้ในเกมนี้ และความพ่ายแพ้ต่อหน้าแฟนบอลในบ้านของตัวเองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งตอกย้ำว่าทีมของ เอริค เทน ฮาก จำเป็นต้องมีการเซ็นสัญญากับนักเตะเพื่อที่จะเข้ามาเสริมแกร่งให้กับทีม

เอริค เทน ฮาก ได้ออกมาพูดถึงผลงานของทีมของเขาว่า “แน่นอนว่าในเกมนี้มันเป็นความล้มเหลวของเรา และผมก็รู้สึกผิดหวังกับผลงานของทีมเรามากๆ ในมุมมองของผม ผมมองว่ารูปเกมในครึ่งหลังของเราค่อนข้างจะดีขึ้นหลังจากที่ คริสเตียน เอริคเซ่น และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ได้ลงเล่นในสนาม เราสร้างโอกาสยิงประตูได้สองครั้งแต่น่าเสียดายที่เราทำไม่ได้ สำหรับเกมนี่ผปมมองว่าเราไม่ควรจะแพ้ และเราควรจะทำได้ดีกว่านี้”

อารอน ฮิคกี้ เข้ารับการตรวจร่างกายกับ เบรนท์ฟอร์ด

อารอน ฮิคกี้ เข้ารับการตรวจร่างกายกับ เบรนท์ฟอร์ด

อารอน ฮิคกี้ ได้เข้ารับการตรวจร่างกายในสหราชอาณาจักรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะย้ายยังไปที่ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งค่าตัวของนักเตะหนุ่มรายนี้ 14 ล้านปอนด์ พร้อมกับเงินโบนัสอีกส่วนหนึ่งซึ่งน่าจะอยู่ที่การตกลงกันระหว่างสองสโมสร ซึ่ง เบรนท์ฟอร์ด พยายามที่จะเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มรายนี้ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม และได้มีการติดต่อไปเพื่อทำการเจรจาด้วยในตอนนั้น แต่ว่าการเซ็นสัญญานั้นไม่สำเร็จ

นักเตะหนุ่มวัย 20 ปีรายนี้ย้ายจาก ฮาร์ตส์ มาร่วมทีมใน เซเรียอา ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ในปี 2020 และเขาได้ลงเล่นให้กับ โบโลญญ่า ไปแล้ว 48 นัด เขาลงเล่นให้ทีมชาติสกอตแลนด์ชุดใหญ่ในเกมที่เสมอกับ โปแลนด์ 1-1 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้สโมสรทางตะวันตกของลอนดอนก็ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับ ฮัลล์ สำหรับการเซ็นสัญญากับ คีน ลูอิส-พอตเตอร์ แล้วด้วย ซึ่งน่าจะได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ และทางด้านของผู้เล่นเองก็ต้องการย้ายเข้ามาร่วมทีม เบรนท์ฟอร์ด ด้วย

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เบรนท์ฟอร์ด เป็นหนึ่งทีมที่มีกลยุทธ์ที่ดีมากในการเลือกเซ็นสัญญากับนักเตะ พวกเขาสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม พวกเขาสามารถสร้างความแข็งแก่งให้กับทีมของตัวเองและสามารถเลื่อนชั้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้ในฤดูกาลที่ผ่านมา และฤดูกาลที่แล้วก็เห็นได้ชัดเลยว่าในการเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ในปีแรกนั้นผลงานของพวกเขาก็ไม่ได้แย่เลย โดยจบในอันดับที่ 13 ในตารางคะแนนของ พรีเมียร์ลีก

สเปอร์ส ยังไม่เคลื่อนไหว หลังจากมีข่าวกับ อเลสซานโดร บัสโตนี

สเปอร์ส ยังไม่เคลื่อนไหว หลังจากมีข่าวกับ อเลสซานโดร บัสโตนี

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ตั้งเป้าที่จะเซ็นสัญญา อเลสซานโดร บัสโตนี หลังจากที่ สเปอร์ส ต้องการให้นักเตะหนุ่มรายนี้เล่นภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ อีกครั้ง แต่การย้ายออกจาก อินเตอร์ มิลาน ไปยัง สเปอร์ส ของเขายังคงไม่มีอะไรเคลื่อนไหวในตอนนี้ เนื่องจากนักเตะกองหลังรายนี้ยังคงแฮปปี้กับการเล่นอาชีพที่ ซาน ซิโร แต่ทางด้านของ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะเสริมแกร่งให้กับทีมของเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากที่เขาได้ช่วยให้ สเปอร์ส ผ่านเข้าไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า

อินเตอร์ มิลาน ซื้อ อเลสซานโดร บัสโตนี มาจาก อตาลันต้า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่เมื่อถึงเวลาที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามารับตำแหน่งกุนซือที่ ซาน ซิโร อีกสองปีต่อมา นักเตะกองหลังรายนี้ไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ อินเตอร์ มิลาน เลย หลังจากที่ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับอดีตสโมสรของเขา และ ปาร์ม่า

แต่ อเลสซานโดร บัสโตนี ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับอดีตผู้จัดการทีมของ เชลซี ได้ในที่สุด และเขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวหลักในตำแหน่งกองหลังของ อินเตอร์ มิลาน และแข้งวัย 23 ปีรายนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงกุญแจสำคัญในฤดูกาลที่สองของ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ ซาน ซิโร และช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ เซเรียอา เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี

ฟอร์มการเล่นของ อเลสซานโดร บัสโตนี ภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ส่งผลให้เขาได้รับการรียกตัวติดทีมชาติอิตาลีเป็นครั้งแรก และตอนนี้เขาได้ลงเล่นในนามทีมชาติไปแล้ว 12 นัด โดยหนึ่งในนั้นคือในการแข่งขัน ยูโร 2020 ที่ อิตาลี สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ หลังเอาชนะอังกฤษในรอบชิงชนะเลิศด้วยการดวลจุดโทษ

Craig Johnston World Soccer

นักเตะในวัยเด็ก จากจุดต่ำสุด สู่จุดที่สูงสุด

เปเล่

ตำนานกองหน้าหมายเลข 10 ชาวบราซิล เปเล่ นักเตะยอดฝีมือของโลก เขาคือตำนานที่ยังมีลมหายใจอยู่ทุกวันนี้ และสร้างประวัติศาสตร์ไว้มากมาย คลองแชมป์ฟุตบอลโลกมาถึง 3 สมัย และเป็นดาวยิงหลักของทีม แต่ชีวิตในวัยเด็กของ เปเล่ ก็เหมือนนักฟุตบอลคนอื่น ที่เกิดมาไม่ได้มีชีวิตสวยหรูมากนักแต่สำหรับเขานั้นถือว่าเกิดมาเพื่อสู้ชีวิตแบบจริงจัง เปเล่ ในวัยเด็กของเขาครอบครัวนั้นแสนจะลำบาก แทบจะไม่มีเงินจุนเจือเหลือพอให้ซื้อข้าวในแต่ละมื้อได้เลย แต่ถ้าพูดถึงด้านฟุตบอลแล้วเขาลงลายและรักตั้งแต่เด็กแบบแท้จริง ถือว่ามีพรสวรรค์การเล่นฟุตบอลแบบเหนือชั้น แต่เขาก็ไม่เคยละทิ้งครอบครัวให้ลำบากเพื่อที่จะไปเล่นฟุตบอลตามใจตนเองเหมือนเด็กคนอื่นในตอนนั้น เขาได้ช่วยพ่อแม่เก็บถั่วและพืชผักไปขายเพื่อจะนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวให้มีข้าวกินในแต่ละมื้อให้ได้ ก่อนที่เขานั้นจะออกไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อน เปเล่ เป็นเด็กที่น่าสงสารมาก เขาเล่นฟุตบอลด้วยเท้าเปล่าในขณะที่เพื่อนๆของเขานั้นใส่รองเท้าแทบทุกคน แต่แน่นอนว่าเด็กชายคนนี้ไม่สนอะไรทั้งนั้นด้วยความรักและชอบจึงเดินหน้าเตะบอลด้วยใจรัก และมีความจริงอีกหนึ่งอย่าง แท้จริงแล้ว เปเล่ นั้นมีชื่อจริงว่า เอ็ดสัน อรันเตส โดส นาซิเมนโต้ เขาชอบโดนเพื่อนล้อชื่อปัจจุบันว่า เปเล่ ทำให้เขาของขึ้นกำหมัดและวิ่งใส่ไปที่หน้าของเพื่อนเขาอยู่ประจำ แต่เมื่อโดนเรียกไปเรื่อยๆเขากลับกลายเป็นว่าชอบชื่อนี้อย่างมาก จึงใช้ชื่อ เปเล่ เรียกแทนตัวเองตลอดเวลา แต่หารู้ไม่ว่าชื่อ เปเล่ จะกลายเป็นนักเตะฟุตบอลระดับโลก จนมาถึงทุกวันนี้ และเขาก็ไม่เคยที่จะลืมคนที่สนับสนุนคือพ่อแม่และครอบครัวกับโอกาสที่เขาเคยได้รับ จนมีทุกอย่างในวันนี้

ดิเอโก้ มาราโดน่า

ดิเอโก้ มาราโดน่า อดีตตำนานกองหน้าทีมชาติอาเจนติน่า ที่ได้ล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ประวัติของเขาในวัยเด็กช่างน่าสงสารซะเหลือเกิน เกิดในครอบครัวที่ยากจน และที่สำคัญตอนเด็กมนุษย์มักจะ ชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนข้างบ้าน แต่เขาคนนี้เป็นเด็กที่เกเรอีกหนึ่งคน ชอบฟุตบอลถึงกับขั้นที่ต้องหนีที่บ้านเพื่อจะไปเล่นตลอดเวลา และก็ชอบโดนพ่อกับแม่ด่าเป็นประจำบางครั้งก็ต้องตามถึงที่ไม่งั้นเขาก็ไม่กลับบ้าน หำเด็กที่ดื้อมากมีอยู่วันหนึ่งเพื่อนของเขานั้นได้เป่าหูให้ มาราโดน่า ออกมาเล่นฟุตบอลกับพวกเขา เรียกว่าไอ้หมอนี่ยิ่งพูดก็ยิ่งทำยิ่งห้ามก็ยิ่งจะไป ดิเอโก้ มาราโดน่า ได้แอบไปเล่นฟุตบอลอยู่บ่อยครั้งจนมีอยู่วันหนึ่งเหมือนมีแมวมองจากสโมสร อาร์เจนตินา ทีมเยาวชนของสโมสร ได้ให้ความสนใจและยื่นข้อเสนอให้กับเขา จนทำให้รู้ว่า ฝีเท้าลายมือของเขานั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ในกลุ่มเหล่าเซียนบอลสเต็ป6ทั้งหลายพากันยกย่องถึงผลงานของเขา จึงตอบตกลงและทดสอบฝีเท้ากับอคาเดมี่ของสโมสรทันที และในปัจจุบันนี้ เขาคือตำนานระดับโลกที่ไม่เคยมีผู้ใดลืมลง

เคร็ก จอห์นสตัน

เคร็ก จอห์นสตัน อดีตตำนานลิเวอร์พูล เขาเป็นชาวออสเตรเลีย ที่มีใจรักฟุตบอลตั้งแต่เด็ก ตำแหน่งหลักๆของเขาคือมิดฟิลด์ เล่นบทบาทไหนก็ได้ฝีเท้าเขาแหลมคม นิสัยของเขาเป็นคนที่ตลกโปกฮา ไม่ค่อยจริงจังกับชีวิตสักเท่าไหร่ แต่เพื่อนฝูงที่อยู่รอบตัวเขานั้นก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา เงานอดิเรกหลักของเขานั้น คือการถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ ส่วนชีวิตวัยเด็กของเขา แทบจะไม่น่าเชื่อว่า เคร็ก จอห์นสตัน จะเป็นเด็กสู้ชีวิตขนาดนี้ เพราะครั้งหนึ่งเขาได้รับข่าวสารว่ามีการคัดฟุตบอลของสโมสร มิดเดิลสโบรห์ ตอนนั้นเขาได้ขอพ่อกับแม่เพื่อจะบินตรงมายังอังกฤษเพื่อจะมาทดสอบฝีเท้าเข้าเป็นนักฟุตบอลของสโมสรนี้ พ่อกับแม่เขานะอนุญาตและให้เงินเพื่อบินมาทดสอบฝีเท้า แต่พอได้เข้ามาทดสอบแล้วเขากลับทำไม่ได้ตามที่หวังไว้ เขาจึงไม่กล้าบอกพ่อแม่ของเขา เคร็ก จอห์นสตัน จึงตัดสินใจที่จะปักหลักอยู่นี่และหางานทำ งานที่ว่าก็คือการขัดรองเท้าสตั๊ดของนักฟุตบอลในสโมสร เพื่อจะเป็นค่าปิดปากให้กับยามที่เฝ้าประตูปิดเปิดของสังกัด เพื่อจะให้เขานั้นแอบเข้าไปซ้อมบอลกับทีมสโมสรจูเนียร์ และหลังจากนั้นไม่นานในปีถัดมา ทางสโมสรก็ได้เปิดคัดนักเตะเยาวชนอีกครั้ง แล้วรอบนี้เขานั้นไม่พลาดอย่างแน่นอน แถมทำได้ดีกว่ารอบที่แล้วซะอีก กลายเป็นว่าความพยายามของเขานั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และนี่คือจุดเริ่มต้นคำว่าตำนานของ เคร็ก จอห์นสตัน